ไม่ว่าใครก็อยากให้บ้านของตัวเองสะอาด เรียบร้อย ไม่มีของใช้ในบ้านเกะกะตามบริเวณต่าง ๆ เพราะบ้านที่ไม่เป็นระเบียบ ไม่ได้สร้างแค่ความหงุดหงิดใจเท่านั้น แต่เป็นแหล่งสะสมของฝุ่น เชื้อโรค และแบคทีเรียต่าง ๆ ที่เมื่อเวลาผ่านไปก็จะส่งผลเสียต่อสุขภาพของคนในบ้านได้ แต่การจะเริ่มจัดบ้านสักครั้งหนึ่ง แค่คิดก็เหนื่อยแล้ว วันนี้เราจึงมาแนะนำ 6 ขั้นตอนการจัดระเบียบบ้านให้น่าอยู่ที่คุณสามารถเอาไปปรับใช้ได้ง่าย ๆ รับรองว่าบ้านเป็นระเบียบ ไม่กลับมารกอีกแน่นอน เพียงแค่ทำตามวิธีเหล่านี้เป็นประจำ!
Content Summary
- การที่เราจัดบ้านไม่สำเร็จสักที เพราะไม่เคยวางแผนและกำหนดเวลาสำหรับจัดระเบียบก่อน ทำให้เสียเวลากับโซนที่ไม่จำเป็นและค่อย ๆ เก็บไปเรื่อย ๆ จึงควรกำหนดวันเวลาสำหรับทำความสะอาดบ้านโดยเฉพาะ
- วิธีจัดบ้านไม่ให้รกที่สำคัญที่สุดคือ ต้องทิ้งของไม่จำเป็นออกไปให้หมด อย่าคิดว่าวันหลังจะได้หยิบออกมาใช้ และเหลือไว้เฉพาะของที่จำเป็นเท่านั้น
- ถ้าใครกลัวว่าจะจำไม่ได้ว่าเก็บของไว้ตรงไหน ให้นำป้ายหรือฉลากติดไว้บนลิ้นช้กหรือกล่องเก็บของ โดยเขียนชื่อหมวดหมู่และประเภทของสิ่งของลงไป
Table of Contents

สาเหตุที่ทำให้บ้านรก เกิดจากอะไร
ก่อนจะไปเรียนรู้วิธีจัดระเบียบบ้านให้น่าอยู่ มาดูกันว่าพฤติกรรมอะไรบ้างที่ทำให้บ้านของคุณรกและไม่เป็นระเบียบได้ ได้แก่ ซื้ออย่างเดียวแต่ไม่คำนำถึงที่เก็บของ ชอบสะสมของอย่างเดียว ไม่เคยทิ้งของเลย ขี้เกียจจัดระเบียบของทุกเดือน รวมถึงพฤติกรรมที่หยิบของออกมาใช้ แต่ไม่เก็บกลับเข้าที่ ก็เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้บ้านรกมาก ๆ ได้
บ้านรก ส่งผลเสียต่อผู้อยู่อาศัยอย่างไรบ้าง
- เกิดอุบัติเหตุภายในบ้านได้ เพราะมีข้าวของกระจัดกระจายไปทั่ว ทำให้เกิดโอกาสสะดุดล้ม หรือถูกบาดจากของมีคมได้
- เกิดความเครียดได้ง่าย เมื่อกลับบ้านมาเหนื่อย ๆ และเจอสภาพห้องที่ไม่เป็นระเบียบเรียบร้อย ก็จะทำให้รู้สึกไม่สดชื่นและหงุดหงิดยิ่งกว่าเดิม จนทำให้ไม่มีความสุขเวลาอยู่บ้านได้เลย
- หาสิ่งของไม่เจอ เพราะไม่ได้จัดเก็บให้เป็นที่เป็นทาง ทำให้หาสิ่งของที่ต้องการไม่เจอ
- ทำความสะอาดยาก ข้าวของทับถมกันจนทำให้ไม่สามารถทำความสะอาดได้ จนเกิดฝุ่นและเชื้อราสะสม หากปล่อยไปนาน ๆ จะส่งผลเสียต่อสุขภาพโดยรวมได้

How To จัดระเบียบบ้านให้น่าอยู่ ด้วยวิธีการง่าย ๆ แค่ 6 ขั้นตอน
1. กำหนดวันที่จะจัดบ้านให้เป็นระเบียบทั้งหลัง
หลายครั้งที่เราจัดระเบียบของใช้ในบ้านไม่สำเร็จ เพราะไม่ได้กำหนดระยะเวลาและวางแผนเอาไว้ก่อน บางคนอาจใช้เวลาในแต่ละห้องนานเกินไป หรือมัวแต่ละเก็บทีละนิด ทีละน้อย เงยมองนาฬิกาก็หมดวันเสียแล้ว ดังนั้น ควรกำหนดวันสำหรับการจัดบ้านให้เป็นระเบียบโดยเฉพาะ ประมาณ 1 – 2 วัน ซึ่งในช่วงเวลานี้เราก็จะไม่ทำอย่างอื่นเลย นอกจากทำความสะอาดและจัดสิ่งของเท่านั้น อาจจะฟังแล้วดูเหนื่อยตั้งแต่ยังไม่เริ่ม แต่มั่นใจได้เลยว่าคุณจะเหมือนได้บ้านใหม่ที่เป็นระเบียบเรียบร้อย และของไม่รกเท่าเดิมแน่นอน
2. รื้อของในแต่ละห้องทั้งหมดออกมา
ขั้นตอนแรกเริ่มจากการรื้อของทั้งหมดออกมา ให้เหลือแต่ชั้นเก็บของหรือลิ้นชักโล่ง ๆ เท่านั้น แล้วแต่คุณเลยว่าจะเริ่มจากห้องที่ข้าวของเยอะที่สุด หรือน้อยที่สุดก่อน ซึ่งทาง EZYBUILT แนะนำว่าคุณควรเริ่มจากห้องที่ใหญ่และมีของเยอะที่สุด เพราะห้องต่อ ๆ ไปคุณจะใช้เวลาน้อยลงและมีกำลังใจในการจัดระเบียบบ้านมากขึ้น
อาจจะเริ่มต้นจากห้องนอน โดยเฉพาะตู้เสื้อผ้าที่เต็มไปด้วยเสื้อผ้าที่ชอบใส่หรือซื้อมานานและไม่เคยได้ใส่เลย ไล่ไปทีละจุดของห้อง จากนั้นค่อยไปที่ห้องนั่งเล่น ห้องครัว และห้องน้ำตามลำดับต่อไป

3. เก็บของที่จำเป็น และทิ้งของที่ไม่ได้ใช้แล้ว
หลักการในการจัดบ้านให้เป็นระเบียบที่ “มาริเอะ คนโดะ” ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดระเบียบภายในบ้านจากประเทศญี่ปุ่นเคยบอกไว้ก็คือ อย่าเก็บของไว้เพียงเพราะว่าวันหลังจะได้ใช้ เพราะถ้าสิ่งของชิ้นนั้นมันจำเป็นหรือมีประโยชน์จริง ๆ เราคงใช้มันไปนานแล้ว ดังนั้น ให้ทิ้งของที่ไม่ได้ใช้อีกแล้วออกไปให้หมด ให้เหลือแต่ของใช้ที่จำเป็นเท่านั้น ในระหว่างนี้เราอาจได้เจอของที่หาไม่เจอมานาน ของที่ซื้อมาซ้ำ หรือของที่หมดอายุการใช้งานไปแล้ว ก็ถือเป็นการเคลียร์ของที่หมดประโยชน์แล้วไปในตัว
4. ทำความสะอาดกล่องหรือชั้นวางสำหรับเก็บของให้เรียบร้อย
หลังจากเคลียร์ของออกมาทั้งหมดแล้ว ก็ให้ทำความสะอาดกล่องเก็บของและชั้นวางต่าง ๆ ให้เรียบร้อย จะได้เช็กสภาพของลิ้นชักว่ามีปลวกไหม หรือสภาพใกล้พังแล้วหรือยัง และสำหรับใครที่พิจารณาดูแล้วว่าที่เก็บของปัจจุบันอาจไม่เพียงพอ ให้ลองหากล่องกระดาษหรือกล่องพลาสติกที่มีอยู่แล้วในบ้าน และนำมาจัดของต่าง ๆ ลงไปก่อน เพราะบางครั้งเราอาจมีกล่องพวกนั้นอยู่แต่ไม่เคยหยิบออกมาใช้ จะได้ไม่ต้องซื้อลิ้นชักหรือชั้นวางใหม่ เป็นการจัดบ้านให้น่าอยู่แบบประหยัดเงินในกระเป๋า

5. จัดระเบียบสิ่งของตามหมวดหมู่
หลังจากที่รื้อของออกมาแล้ว หลายคนน่าจะเห็นว่าของบางอย่างอาจดันอยู่ในที่ที่ไม่ควรอยู่ ในโอกาสนี้จัดระเบียบบ้านให้น่าอยู่ด้วยการแบ่งของทุกอย่างออกเป็นหมวดหมู่ ได้แก่ เสื้อผ้า หนังสือ อุปกรณ์ใช้ในบ้าน เอกสาร เป็นต้น โดยวิธีการจัดของลงไปในกล่อง ลิ้นชัก หรือชั้นวางของอาจเรียงตามความสำคัญ เช่น ของชิ้นไหนที่หยิบใช้บ่อย ควรเอาไว้หน้าสุดหรือจุดที่หยิบใช้สอบได้ง่ายที่สุด ของที่ใกล้หมดอายุก็วางในจุดที่มองเห็นได้บ่อย ๆ ส่วนของที่ไม่ได้ใช้เป็นประจำ ให้วางในบริเวณมุมหรือข้างในสุดของลิ้นชัก
6. ติดป้ายบอกหมวดหมู่ตามกล่องหรือลิ้นชัก
เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์หาของไม่เจอหรือจำไม่ได้ว่าเก็บชิ้นไหนไว้ตรงไหน ให้นำป้ายแปะบริเวณลิ้นชักหรือกล่องเก็บของ แล้วเขียนหมวดหมู่สิ่งของลงไป เช่น อุปกรณ์สำหรับซ่อมแซม อุปกรณ์สำหรับซักผ้า กล่องบริจาค เครื่องครัว หรือของแห้ง เป็นต้น
สรุป
จัดบ้านให้เป็นระเบียบไม่ได้ช่วยให้บ้านสะอาดเท่านั้น แต่ทำให้ชีวิตประจำวันของคุณดีขึ้นด้วย เพราะสามารถค้นหาได้สะดวกตามต้องการ ช่วยให้ทำกิจกรรมต่าง ๆ เร็วและง่ายขึ้น รวมถึงลดการเกิดอุบัติเหตุจากการสะดุดของที่อยู่ตามพื้นได้อีกด้วย เท่านี้คุณก็จะรู้สึกว่าบ้านนั้นน่าอยู่และรักบ้านของตัวเองมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม











