ห้องนอนเป็นมุมโปรดของใครหลาย ๆ คน เพราะเป็นสถานที่ที่ให้ร่างกายได้พักผ่อนจากความเหนื่อยล้า ได้ใช้เวลากับตัวเอง รวมถึงฟื้นฟูจิตใจให้เต็มร้อยก่อนตื่นมาต้อนรับวันใหม่ ทำให้คนมักให้ความใส่ใจกับการตกแต่งห้องนอนเป็นพิเศษ ซึ่งนอกเหนือไปจากความสวยงามแล้ว EZYBUILT อยากให้ทุกคนคำนึงถึงหลักการจัดห้องนอนที่ถูกต้องตามหลักสุขลักษณะ เพราะจะช่วยให้คุณภาพการนอนของคุณดีมากยิ่งขึ้น ถ้าหากในทุก ๆ วันสภาพแวดล้อมการนอนไม่เอื้ออำนวย ก็อาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพกายและใจตามมาได้ มาดูกันเลยว่า 10 วิธีจัดห้องนอนให้น่าอยู่ที่เรานำมาฝากเพื่อน ๆ ในบทความนี้ จะมีอะไรกันบ้าง
Content Summary
- การนอนหลับอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยทำให้สมองแข็งแรง จดจำได้ดี และเป็นการให้อวัยวะได้พักผ่อนจากการทำงานหนักมาตลอดทั้งวัน
- การจัดห้องนอนที่ดี ควรเลือกใช้ที่นอนที่พอดีกับขนาดตัว และสามารถรองรับสรีระได้อย่างเต็มที่ เพราะจะช่วยลดปัญหาสุขภาพ ลดอาการปวดหลัง รวมถึงควรจัดห้องนอนให้อยู่ในมุมที่เงียบสงบที่สุดของบ้าน เพื่อป้องกันเสียงรบกวนในเวลากลางคืน
- ร่างกายของมนุษย์จะตื่นตัวอัตโนมัติเมื่อเจอแสงแดด ดังนั้น ควรออกแบบห้องนอนให้มีหน้าต่างข้าง ๆ เตียง และหลีกเลี่ยงการวางตำแหน่งแอร์บนหัวเตียงหรือปลายเตียง เพราะจะทำให้ผู้นอนได้รับความเย็นจากแอร์โดยตรง
Table of Contents
คุณภาพการนอนที่ดี มีประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างไรบ้าง
การนอนหลับพักผ่อนที่ไม่เพียงพอหรือไม่เต็มอิ่ม ไม่ได้แค่ทำให้คุณรู้สึกหงุดหงิด อารมณ์ร้อนง่ายเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่ออวัยวะภายในโดยรวม เพราะร่างกายไม่ถูกฟื้นฟูอย่างเต็มที่ จึงเป็นสาเหตุของโรคอื่น ๆ อย่างโรคหัวใจ โรคเกี่ยวกับหลอดเลือด ไปจนถึงโรคอ้วน เพื่อให้คุณเข้ห็นภาพว่าทำไมถึงต้องออกแบบห้องนอนให้ดีต่อสุขภาพ เราก็จะมาบอกประโยชน์ของคุณภาพการนอนที่ดีกันก่อน
อวัยวะต่าง ๆ ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่
การนอนอย่างมีคุณภาพ ช่วยให้หัวใจ หลอดเลือด และอวัยวะต่าง ๆ ได้พักผ่อนจากการใช้งานมาทั้งวัน บางครั้งที่ตัวเรารู้สึกเหนื่อยล้าและอ่อนเพลีย ก็เพราะใช้งานร่างกายหนักเกินไป ดังนั้น จำเป็นต้องพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 7 – 9 ชั่วโมงต่อวัน เพื่อให้กล้ามเนื้อได้ฟื้นฟูอย่างเต็มที่มากที่สุด และเป็นการปรับสมดุล ลดระดับน้ำตาลในเลือด และสร้างภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงให้กับร่างกาย
สมองแข็งแรงและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ถ้าคุณเริ่มรู้สึกว่าช่วงไหนสมองไม่ปลอดโปร่ง ความจำไม่ดี และไม่สดชื่นสักเท่าไหร่ แสดงว่าคุณภาพการนอนอยูในระดับที่แย่มาก ๆ ควรเปลี่ยนพฤติกรรมการนอนโดยด่วน เพราะการนอนหลับที่ดีจะช่วยให้สมองสามารถจัดระเบียบความทรงจำทั้งหมด และนำมาใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดโอกาสการเกิดภาวะอัลไซเมอร์ในวัยชรา
สุขภาพจิตดี
นอกจากร่างกายที่แข็งแรง ก็ต้องมาพร้อมสุขภาพจิตที่ดีด้วย ซึ่งการนอนหลับอย่างเต็มอิ่มจะช่วยให้ลดภาวะเครียด ควบคุมอารมณ์ได้ดีขึ้น และลดอาการวิตกกังวลได้เช่นกัน เมื่อมีอารมณ์ที่ดีก็จะทำให้ความสันพันธ์กับคนรอบข้างดีตามไปด้วย
10 วิธีการออกแบบห้องนอนที่ถูกต้อง เพื่อสุขภาพที่ดีของคนในครอบครัว
การนอนที่ดีช่วยให้ร่างกายสามารถใช้งานได้ 100% ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ควรใส่ใจตั้งแต่วัยเด็กไปจนถึงวัยชรา และเพื่อให้คุณนอนหลับในทุกคืนอย่างเต็มอิ่ม หลักการจัดห้องนอนตามหลักสรีรศาสตร์และสุขลักษณะจึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม มาตามดู 10 เช็กลิสต์วิธีการออกแบบห้องนอนที่ดีไปพร้อมกันว่า มีข้อไหนบ้างที่คุณยังไม่ได้ทำบ้าง เริ่มกันเลย!
1. จัดวางเครื่องนอนให้มีพื้นที่ใช้งานเต็มที่
สำหรับบ้านที่มีห้องนอนขนาดเล็กหรือต้องการใช้สอยทุกตารางนิ้วในห้องนอนให้เต็มที่ ควรจัดวางเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ให้เข้ามุม เพื่อให้ห้องดูกว้างและโปร่งมากขึ้น ช่วยให้เดินไปมาสะดวก ไม่มีของวางระเกะระกะ ซึ่งควรเลือกไซซ์ของเตียงให้พอดีกับขนาดตัวหรือจำนวนผู้นอน หากเป็นเตียงขนาด 3 หรือ 3.5 ฟุต ควรวางบริเวณมุมใดมุมหนึ่งของห้อง เพื่อให้เหลือพื้นที่สำหรับวางโต๊ะเครื่องแป้งหรือโต๊ะทำงาน แต่ถ้าเป็นเตียงใหญ่ขนาด 6 ฟุตขึ้นไป แนะนำให้วางตรงกึ่งกลาง เพื่อให้สามารถขึ้นเตียงได้สะดวกและเหลือพื้นที่สำหรับวางเฟอร์นิเจอร์อื่น ๆ เช่น ตู้เสื้อผ้า ชั้นเก็บของ หรือชั้นวางทีวี
2. ใช้ปลอกหมอนและผ้าปูที่นอนเพื่อสุขภาพ
ปลอกหมอนและผ้าปูที่นอนสามารถช่วยคุมธีมและสีสันของห้องนอนได้ แต่เราสามารถตกแต่งห้องนอนให้ดีต่อร่างกายยิ่งขึ้น ด้วยการเลือกใช้เครื่องนอนที่ออกแบบมาเพื่อสุขภาพ ปัจจุบันก็มีเทคโนโลยีการผลิตเครื่องนอนอย่างผ้าปูที่นอนและปลอกหมอนป้องกันไรฝุ่น ด้วยการถักทอเส้นใยแบบพิเศษ ซึ่งยังเหมาะกับคุณผู้หญิงที่กำลังรักษาสิวอีกด้วย เพราะช่วยลดการสะสมของเชื้อโรคนั่นเอง
3. แสงสว่างพอเหมาะ
ในช่วงเวลาก่อนนอน เพื่อให้ร่างกายได้ปรับตัวและเตรียมพร้อมต่อการเข้านอนมากขึ้น ควรเลือกใช้ไฟโทนอุ่น (Warm Light) เพื่อเป็นการถนอมสายตา เพิ่มความผ่อนคลายให้กับผู้นอน และยังเหมาะกับการอ่านหนังสือเล็ก ๆ น้อย ๆ ในเวลากลางคืนด้วย หลีกเลี่ยงการใช้ไฟสีขาวที่สว่างจ้าจนเกินไป เพราะจะทำให้ร่างกายตื่นตัวและหลับยากมากยิ่งขึ้น
4. ห้องนอนควรอยู่ในมุมที่เงียบสงบที่สุด
ตำแหน่งของห้องนอนก็เป็นเรื่องสำคัญ ควรออกแบบห้องนอนให้อยู่ในมุมของบ้านที่เงียบที่สุด ไม่ติดกับถนน หรือถ้าหากเป็นบ้านชั้นเดียว ก็ไม่ควรใกล้กับห้องนั่งเล่น เพราะเวลาที่คนในบ้านดูโทรทัศน์ อาจมีเสียงรวบกวนเข้ามาในห้องนอนและทำให้นอนหลับไม่สนิทได้
5. ของแต่งห้องน้อยชิ้นเข้าไว้
การจัดห้องนอนให้สวยงามและน่าพักผ่อน จริงอยู่ว่าควรมีของแต่งห้องน่ารัก ๆ เพื่อเสริมบรรยากาศให้น่านอน แต่หากมีของตกแต่งมากเกินไป ก็จะกลายเป็นแหล่งสะสมของฝุ่น เชื้อโรค และแบคทีเรียโดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะตุ๊กตา ไม่ควรวางสุมกันบนหัวเตียง แต่ถ้าใครชอบตกแต่งห้องนอนด้วยตุ๊กตาหรือ Art Toy ต่าง ๆ ก็ควรทำความสะอาด เช็ดด้วยผ้าและปัดฝุ่นเป็นประจำ
6. กลิ่นหอมอ่อน ๆ ช่วยให้หลับง่ายขึ้น
ก้านไม้หอมปรับอากาศ (Diffuser) หรือสเปรย์ฉีดหมอน (Pillow Mist) เป็นอุปกรณ์ลับที่ช่วยให้คุณภาพการนอนของคุณมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เพราะกลิ่นหอมอ่อน ๆ จะช่วยทำให้รู้สึกผ่อนคลายจากความเครียดได้ ซึ่งปัจจุบันมีหลายแบรนด์ที่ออกแบบ Diffuser ให้มีดีไซน์สวยงาม สามารถนำไปใช้ในการตกแต่งห้องนอนได้เลย
สำหรับกลิ่นที่เหมาะแก่การนอนหลับ ก็ขึ้นอยู่กับรสนิยมและความชอบของแต่ละคน ซึ่งกลิ่นยอดนิยมจะมีดังนี้
- กลิ่นลาเวนเดอร์ (Lavender) ช่วยลดความเครียดและให้ความรู้สึกอบอุ่นเมื่อเข้ามาในห้องนอน
- กลิ่นคาโมมายล์ (Chamomile) เป็นกลิ่นแนวหวาน ๆ ช่วยทำให้นอนหลับง่ายคล้ายกับชาคาโมมายล์ที่คนนิยมดื่มก่อนเข้านอน
- กลิ่นยูคาลิปตัส (Eucalyptus) ทำให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลาย หายใจสะดวก ซึ่งกลิ่นค่อนข้างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
7. สีสันสบายตา
สีสันคือสิ่งที่ช่วยกำหนด Mood & Tone ของห้องนอนได้เป็นอย่างดี ซึ่งก็แล้วแต่ความชอบว่าอยากให้ห้องนอนออกมามีสไตล์ไหน เช่น มินิมอล โมเดิร์น หรือคลาสสิก แต่ EZYBUILT แนะนำว่าควรเลือกสีผนัง เฟอร์นิเจอร์ และเครื่องนอนให้เป็นโทนสีที่สบายตา ไม่ฉูดฉาด เพราะจะเป็นการกระตุ้นสายตาและทำให้นอนหลับยากกว่าเดิม สีที่แนะนำ เช่น สีพาสเทล สีขาว สีครีม หรือจะเป็นโทนเข้มอย่างสีดำ สีเทา ก็ได้
8. ห้องนอนควรมีหน้าต่างเปิดรับแสงแดด
หลักการจัดห้องนอนที่ดีควรมีหน้าต่างภายในห้องนอน เพื่อให้แสงแดดยามเช้าเล็ดลอดเข้ามาในห้องนอน ปลุกให้ผู้นอนตื่นตัว เตรียมพร้อมลุกออกจากเตียง เพราะมนุษย์เรามีสิ่งที่เรียกว่า นาฬิกาชีวิต (Body Clock) คือ การที่ร่างกายของเราจะถูกกระตุ้นในทุก ๆ เช้าด้วยแสงอาทิตย์ เพื่อให้อวัยวะต่าง ๆ รับรู้ว่าถึงเวลาตื่นแล้วและไม่รู้สึกงัวเงียเวลาตื่น
โดยไม่จำเป็นต้องวางเตียงให้ติดกับหน้าต่าง และควรเลือกผ้าม่านที่ไม่หนาจนเกินไป เพียงพอให้มีแสงส่องเข้ามา เพราะหลายคนที่นอนเลยเวลาเช้าจนถึงช่วงบ่ายหรือเย็น เพราะผ้าม่านหนาจนเกินไป ร่างกายจึงคิดว่ายังไม่ถึงเวลาเช้า ทำให้สามารถนอนต่อได้เรื่อย ๆ นั่นเอง ซึ่งการนอนมากเกินไปก็ส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ เช่น สมองเฉื่อยชา น้ำหนักขึ้นง่าย และกล้ามเนื้ออ่อนแรง เป็นต้น
9. ตกแต่งห้องด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่ทำความสะอาดง่าย
นอกจากบริเวณเตียงที่ไม่ควรมีของตกแต่งจำนวนมากแล้ว ในโซนอื่น ๆ ของห้องนอนก็เช่นเดียวกัน ควรจัดห้องให้เป็นระเบียบเรียบร้อย เพื่อป้องกันฝุ่น และเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่ทำความสะอาด มีน้ำหนักเบา สามารถยกมาปัดกวาดสะดวก ในส่วนของผ้าม่านอาจเลือกเป็นม่านแบบมู่ลี่ เพราะสามารถใช้ผ้าเปียกเช็ดทำความสะอาดได้ ไม่ต้องถอดออกมาซัก
10. ตำแหน่งของเครื่องปรับอากาศก็สำคัญ
ขณะที่ออกแบบห้องนอนก็ควรคำนึงถึงองค์ประกอบข้อนี้ให้ดี ๆ โดยเครื่องปรับอากาศควรอยู่บริเวณด้านข้างของเตียง เพื่อให้ความเย็นถ่ายเทสะดวกและกระจายอากาศได้อย่างทั่วถึง หลีกเลี่ยงการติดตั้งแอร์ไว้เหนือหัวเตียงหรือปลายเตียง เพราะจะทำให้ความเย็นตกกระทบผู้นอนโดยตรง หายใจไม่สะดวก ไม่เหมาะกับผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้และเป็นหวัดง่าย
สรุป
หลักการจัดห้องนอนทั้งหมดนี้ จะช่วยฟื้นฟูสุขภาพร่างกายโดยรวม ทำให้นอนหลับสบายและสนิทไปทั้งคืน เพราะการสะดุ้งตื่นกลางดึก แสดงถึงคุณภาพการนอนที่ยังไม่ดีพอ ลองกลับไปสังเกตการออกแบบห้องนอนของคุณอีกครั้งว่าถูกวิธีหรือเปล่า เพราะการปรับเปลี่ยนตาม 10 วิธีในบทความนี้เพียงเล็กน้อย จะช่วยให้คุณสามารถนอนได้ถูกสุขลักษณะ มีแรงกาย แรงใจ ไปเริ่มต้นวันใหม่อันแสนสดใสได้อย่างเต็มที่
